พญานาค ถือว่าเป็นหนึ่งในความเชื่อของคนไทยแถบภาคอีสานอย่างมาก วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักับ พญานาค 4 ตระกูล ซึ่งได้แก่ ทำความรู้จักกับ พญานาคฉัพยาปุตตะ พญานาควิรูปักษ์ พญานาคเอราปถะ และพญานาคกัณหาโคตะมะ กันครับ ใครที่สนใจอยากทราบความเป็นมาของพญานาคทั้ง 4 ตระกูล ลองตามเราไปดูกันได้เลย
ทำความรู้จัก “นาค” ตามความเชื่อชาวพุทธ
ความเชื่อในเรื่องของพญานาคนั้น ต้องบอกว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้วครับ เพราะได้มีการปรากฏอยู่ในวรรณคดีศาสนาเรื่องดังอย่าง ไตรภูมิพระร่วง โดยระบุเอาไว้ว่า นาคนั้นมีลักษณะคล้ายงูใหญ่ แต่จะมีหงอน ดวงตาสีแดง และเกล็ดหลากหลายสี ซึ่งนาคจะอาศัยอยู่บริเวณบาดาลใต้เขาหิมพานต์ เป็นกึ่งสัตว์และกึ่งเทพ อีกทั้งยังมีพละกำลังและอิทธิฤทธิ์อย่างมาก คือ สามารถแปลงตนหรือจำแลงกายได้ โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ ถลชะ ก็คือ นาคที่เกิดบนบก และ ชลชะ ซึ่งเป็น นาคที่เกิดในน้ำ นั่นเองครับ
โดยทั้งนี้ ตามตำนานแล้วนั้น พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่ไม่สามารถจะบรรลุธรรมได้ จึงจัดอยู่ในฝ่ายสุคติภูมิ และสถิตอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา สามารถพำนักได้สูงสุดเพียงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งถือว่าเป็นสวรรค์เพียงชั้นต้นเท่านั้นครับ
4 ต้นตระกูลของพญานาค
ตามตำนานที่มีการเล่าขานต่อ ๆ กันมานั้น ได้กล่าวถึงรูปแบบของพญานาคที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งประเภทของนาคออกได้ 4 ตะกูลดังนี้
1. ตระกูลพญานาควิรูปักษ์
ตระกูลนาควิรูปักษ์ นั้นจะที่มีผิวกายเป็นสีทอง ถือว่าเป็นนาคชั้นสูงสุด โดยกำเนิดมาแบบโอปปาติกะ ก็คือ การเกิดขึ้นเอง แล้วโตเลย มาพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญบารมีอย่างมาก ซึ่งจะถูกจัดอยู่ในชั้นเทพ พำนักที่พำนักอาศัยอยู่ในทิพย์วิมาน เป็นผู้ที่คอยปกครองพญานาคทั้งหมด ต้นตระกูลคือ “ท้าววิรูปักษ์” ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในสี่มหาราชที่ทำการปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ทางด้านทิศตะวันตก พญานาคในตระกูลนี้เป็นที่รู้จักกันดี อาทิเช่น พญาสุวรรณนาคราช พญามุจลินท์นาคราช
2. ตระกูลพญานาคเอราปถะ
ตระกูลนี้นาคจะมีผิวกายเป็นสีเขียว เป็นพญานาคชั้นสูง โดยถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ หรือแบบอัณฑะชะ ก็คือ กำเนิดมาจากฟองไข่ ที่จะมีขนาดใหญ่โตใกล้เคียงกับพญานาคตระกูลสีทองเลยครับ โดยจะอาศัยอยู่เมืองบาดาลไม่ลึกมาก ซึ่งเป็นตระกูลนาคที่พบได้มากที่สุดและอยู่ใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุดเช่นกัน ชอบขึ้นมาเที่ยวบนโลกมนุษย์ จนทำให้เกิดเป็นตำนานรักมากมายกับเหล่ามนุษย์ตามตำนานต่างๆ และหากบำเพ็ญเพียรบารมีจนแกร่งกล้าเมื่อใด ก็จะสามารถแผ่เศียรได้ถึง 9 เศียรเลยครับ ซึ่งสามารถที่จะขึ้นไปเป็นพญานาคชั้นปกครองได้เช่นกันครับ สำหรับพญานาคในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี ก็คือ พญาศรีสุทโธนาคราช ที่อยู่วังนาคินทร์คำชะโนดนั่นเอง
3. ตระกูลพญานาคฉัพยาปุตตะ
นาคในตระกูลนี้จะมีมีผิวกาย หรือเกล็ดที่เป็นสีรุ้ง โดยส่วนใหญ่นั้นจะถือกำเนิดมาแบบชลาพุช หรือก็คือกำเนิดจากครรภ์ ครับ โดยจะอาศัยอยู่ในบาดาลหรือป่าลึก เป็นนาคที่มีอิทธิฤทธิ์มาก แต่สามารถพบได้ยาก เพราะมักอาศัยอยู่ในที่ลึกลับเสมอ
4. ตระกูลพญานาคกัณหาโคตะมะ
เป็นตระกูลนาคที่จะมีผิวกาย หรือเกล็ดเป็นสีดำนิล โดยถือกำเนิดมาแบบสังเสทชะ ก็คือ เกิดจากเหงื่อไคล และบรรดาสิ่งหมักหมมต่างๆ หรือ กำเนิดแบบอัณฑชะ ก็คือเกิดจากไข่ ซึ่งมักมีร่างกายที่กำยำบึกบึน ส่วนมากจะมีหน้าที่คอยเฝ้าสมบัติของเมืองบาดาล ถึงแม้จะเกิดมาในตระกูลที่ต่ำกว่าตระกูลอื่นๆ แต่หากนาคตระกูลนี้หมั่นบำเพ็ญเพียรจนมากจนญาณบารมีสูงเมื่อใด ก็สามารถที่จะกลายเป็นพญานาคชั้นปกครองได้ด้วยเช่นกัน พญานาคในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี ก็คือ องค์ดำแสนสิริจันทรานาคราช ซึ่งเป็นกษัตริย์นาคราชยอดนักรบแห่งเมืองบาดาลครับ
เพราะอย่างที่ทราบกันว่าในทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา นอกจากจะเป็นวันที่เราได้ร่วมทำบุญ พร้อมกับประกอบพิธีทางศาสนากันแล้ว สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะได้เห็นอยู่ในข่าว ก็คือ ภาพของประชาชนจำนวนมาก ที่ได้พากันไปยืนรออยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อชมปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์ “บั้งไฟพญานาค” หนึ่งในประเพณีสำคัญ ที่ได้สะท้อนคติความเชื่อของคนในสังคมไทย ที่มีความเคารพและนับถือพญานาค นั่นเองครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความต่อไปเราจะมีเรื่องราวอะไรดี ๆ ที่น่าสนใจมาฝาก สามารถรอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ