วัดช้างหมอบ ที่เที่ยวอีสาน ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยวัดนี้เรียกได้ว่าเป็นวัดสวย ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์เลยก็ว่าได้ เมื่อได้เดินทางมาเที่ยว สุรินทร์ แล้วห้ามพลาดที่จะวัดแห่งนี้กันโดยนอกจากจะเป็นวัดของเกจิอาจารย์ชื่อดังแล้ว ความงดงามของวัดนี้ ก็ควรค่าที่จะแวะมาจิงๆ โดยวันนี้ หวยสด เราจะพาทุกคนมาเปิดประวัติทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้ พร้อมเปิดจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด จะเป็นอย่างไรตามเรามาดูกันได้เลย
สักการะ หลวงพ่อพวน เกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดช้างหมอบ
วัดช้างหมอบ หรือวัด วัดมงคลคชาราม ตั้งอยู่ที่ บ้านช้างหมอบพัฒนา ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยเป็นวัดหลวงพ่อพวน เกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองสุรินทร์จำพรรษาอยู่ และนอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ ที่มีความสวยงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งวัดช้างหมอบแห่งนี้ เราต้องบอกเลยว่าเป็นวัดที่เงียบสงบตั้งอยู่บริเวณเนินเขาพนมดงรัก ซึ่งติดกับชายแดนไทย – กัมพูชา และใครที่เป็นสายมู บอกเลยว่า้ามพลาด ซึ่งวัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและท่องเที่ยวเชิงธรรมะของชาวจังหวัดสุรินทร์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มายังวัดนี้ มักจะนิยมไปกราบไหว้นมัสการพระพิมลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อพวน วรมงฺคโล (วรระมังคะโล เจ้าอาวาสวัดช้างหมอบ) ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ของจังหวัดสุริทร์เลยก้ว่าได้
เปิดประวัติ วัดช้างหมอบ สุรินทร์
วัดมงคลคชาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดสุรินทร์ โดยเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์สวยงามและถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยก่อน พ.ศ. 2517 โดยพื้นที่ ณ ตรงนี้เป็นป่าทึบ ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าเข้ามาในบริเวณนี้สักเท่าไหร่ และต่อมาได้มี หลวงพ่อพวน รมังคโล เกจิอาจารย์ชื่อดังของอีสานใต้ได้ มาธุดงค์ในป่าบริเวณนี้ และได้มีการดำเนินการสร้างเป็นวัดมงคลคชาราม (วัดช้างหมอบ) ในปี พ.ศ. 2527 โดยมีสถานที่สำคัญภายในวัดคือพระปรางค์กุญชรมณ์ศรีไตรยอดเพชร ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของวัด ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสม ผสานแนวคิดพระธาตุพนมกับนครวัด ซึ่งได้ถูกออกแบบโดยหลวงพ่อพวน และอีกที่คือรอย พุทธบาทที่อยู่เหนือถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำหลวงพ่อพวนที่ใช้นั่งบำเพ็ญเพียรวิปัสสนากัมมัฏฐ ประจำ
จุดไฮไลท์ของวัด วัดช้างหมอบ หรือ วัดมงคลคชาราม
พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร
โดยพระปรางนี้ ได้ถูกสร้างเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ในปีพ.ศ.2552 โดยสร้างเป็นองค์พระปรางค์ 3 ยอดอยู่ตรงกลาง โดยลักษณะสำคัญขององพระค์ปรางค์ 3 ยอด คือ เป็นองค์พระปรางค์ 3 ยอด มีปรางค์บริวารโดยรอบทั้ง 8 ทิศ ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆ ซึ่งได้ปรับปรุงพื้นที่ โดยการถมดินเป็นฐานมีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 100 เมตร สูงจากพื้นดินประมาณ 5 เมตร มีความวิจิตรสวยงาม ด้วยการผสมผสานแนวคิดพระธาตุพนมกับ นครวัด โดยหลวงพ่อพวนเป็นผู้ออกแบบเอง และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง เราต้องบอกได้เลยว่าได้ถูกใช้เป็นทั้งหินศิลาแลง และปูนที่วางแบบ โดยจะเป็นรูปแบบสมัยประยุกต์ ทั้งลวดลายที่เป็นแบบลายไทยและลายผสมระหว่างไทยและขอม เข้าด้วยกัน เรียกได้วาสเป็นลวดลายที่มีคามอัศจรรย์ เข้ากันแบบสุดๆ
และนอกจากนี้ภายในวัดยังก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง ที่มีลักษณะคล้ายก ปราสาทโบราณของชาวกัมพูชา และเมื่อเราเดินเข้าไปภายในวัด จะรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที เพราะภายในวัดจะเงียบสงบมาก มีภูเขาและป่าไม้ล้อมรอบ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นผืนป่ารอบ ๆ วัดได้อย่างชัดเจน บริเวณจุดชมวิวจะมีหินก้อนใหญ่ ๆ เรียกได้ว่ามีคามเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ
โดยในช่วงวัดหยุดยาวในที่มีแพลนมาเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ อย่าพลาดที่จะแวะมายัง วัดช้างหมอบ วัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของ วัดดังสุรินทร์ และสำหรับสายมู ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด แนะนำให้มาสักการะหลวงพ่อพวน พระเกจิชื่อดังประจำวัดนี้ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล และเสริมหน้าที่การงานให้ปัง แบบฉุดไม่อยู่ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนเราต้องขอตัวลาไปก่อนกลับมาพบกัน ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันอีกนั้นติดตามได้ใหม่ในบทความหน้า สนใจสมัครสมาชิกเว็บหวยสด
