พัทลุง นอกจาก เขาอกทะลุ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์ค ที่สำคัญใจกลางเมือง ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ว่านี่คือตัวเมืองพัทลุงแล้วนั้น วันนี้เราจะพาไปเข้าถ้ำ ไหว้พระกลางเมือง ที่ วัดคูหาสวรรค์ พัทลุง กันครับ เพราะนี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวของที่นี่เลยครับ ใครที่สนใจอยากรู้ว่า วัดสวยพัทลุง แห่งนี้ จะมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน ลองตามเราไปดูกันได้เลย
วัดคูหาสวรรค์ จังหวัดพัทลุง
วัดคูหาสวรรค์ เป็นวัดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยได้รับความสนใจจากพระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ที่เสด็จมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ วัดนี้มีโบราณสถานและศิลปกรรมที่โดดเด่น ชาวบ้านมักเรียกวัดนี้ว่า “วัดคูหาสูง” หรือ “วัดสูง” แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับปีที่สร้าง ตามตำนานนางเลือดขาวกล่าวว่า เมื่อคุณตาสามโมและคุณยายเพชรเสียชีวิต กุมารและนางเลือดขาวได้นำอัฐิของทั้งสองไปเก็บไว้ในถ้ำคูหาสวรรค์ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ 1 องค์ และพระพุทธรูปปูนปั้นที่ทำจากดินเหนียวเรียงรายอย่างเป็นระเบียบจำนวน 37 องค์ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก
พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ได้เสด็จประพาสที่นี่ โดยมีพระปรมาภิไธยย่อที่ทรงจารึกไว้ว่า จ.ป.ร.108 บริเวณหน้าถ้ำ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถก็ได้เสด็จประพาสที่ถ้ำคูหาสวรรค์ และทรงจารึกพระปรมาภิไธย ภปร. พร้อมวันที่ 17.3.2502 ไว้ที่เพิงหน้าถ้ำ ถ้ำนี้มีความลึกและยาว โดยมีทางลอดใต้ภูเขาไปยังถ้ำนางคลอดซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ปัจจุบันวัดคูหาสวรรค์ได้รับการพระราชทานยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเชิงเขาหัวแตก ในตำบลคูหาสวรรค์ เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ห่างจากศาลากลางจังหวัดพัทลุงประมาณ 800 เมตร โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 40 นิ้ว น้ำหนัก 1,400 กิโลกรัม ซึ่งทำจากโลหะทองเหลือง ทองแดง และทองขาวอย่างละ 3 ส่วน โดยมีการพุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง และพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้นำพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2511 เนื่องจากจังหวัดนี้มีความเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในภาคใต้ของประเทศไทย
ความน่าสนใจของวัด
ถ้ำคูหาสวรรค์
ถ้ำคูหาสวรรค์ เดิมทีชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำน้ำเงิน” หรือ “ถ้ำพระ” โดยชื่อคูหาสวรรค์เชื่อว่ามีการเรียกใช้มาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ถ้ำนี้มีขนาดกว้าง 18 เมตร ยาว 28 เมตร และสูงเป็นเวิ้งรูปกรวย ที่ด้านบนมีหินงอกที่มีลักษณะคล้ายช้าง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ช้างผุด” หรือ “หินลับแล” พื้นของถ้ำปูด้วยอิฐถือปูน และมีเจดีย์เล็กๆ หนึ่งองค์ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปูนปั้นและปั้นด้วยดินเหนียวเรียงรายอย่างเป็นระเบียบในทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก รวมทั้งหมด 37 องค์ ขนาดแตกต่างกันไป พระพุทธรูปเหล่านี้ตามประวัติกล่าวว่า พระราชมุนี (สมเด็จเจ้าพระโคะ หรือหลวงพ่อทวดวัดช้างให้) ได้มีส่วนร่วมในการสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาจำนวน 20 องค์
ในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้มีการบูรณะและสร้างเพิ่มเติมพระพุทธรูปอีก 17 องค์ โดยเฉพาะที่ด้านทิศตะวันออกของเศียรพระพุทธไสยาสน์ มีการค้นพบกรุพระพิมพ์ที่ชาวบ้านขุดพบ ซึ่งมีพระแบบต่างๆ จำนวนมาก รวมถึงพระจำหลักไม้ พระพุทธรูปปูนปั้น พระสำริด และพระพิมพ์ดินดิบจากสมัยศรีวิชัย ชาวบ้านเรียกพระเหล่านี้ว่า “พระผีทำ” ที่ปากถ้ำมีหินเป็นชั้นกั้นสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หัวทรพี” ตรงข้ามกับหินนั้นมีรูปพระฤาษีตาไฟปูนปั้น และมีตำนานเกี่ยวกับนางเลือดขาวกับเจ้าพระยากุมารที่สร้างขึ้นแทนอนุสาวรีย์ตาสามโมกับยายเพชร โดยได้บรรจุอัฐิของตายายทั้งสองไว้ภายใน ชาวบ้านถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก มีการบนบานและปิดทองจนเต็มองค์ จนไม่สามารถเห็นลักษณะแท้จริงได้ และเคยได้รับการบูรณะมาแล้วครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2468
ถ้ำนางคลอด
ถ้ำนี้มีลักษณะเป็นถ้ำเปิดโล่งที่มีเพดานสูง และมีชายคาที่ต่อออกมา ด้านในถูกจัดเป็นชั้นพร้อมบันไดให้ขึ้นไปได้ มีการเล่าขานกันมาว่า ที่นี่คือถ้ำที่พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เกจิดังจากภาคใต้ ท่านได้สร้างขึ้น โดยบริเวณหน้าถ้ำมีรูปปั้นหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นของมนุษย์ เมื่อเข้าไปภายในจะพบกับพระพุทธรูปปูนปั้นหลายองค์และรูปเคารพต่าง ๆ มากมาย แต่บรรยากาศภายในกลับออกจะทึบและมืดครึ้ม มีแสงสลัว ๆ ที่ทำให้รู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อยเลยครับ
ข้อมูล ของ วัดคูหาสูง พัทลุง
- สถานที่ตั้ง : ตำบลปรางหมู่ อำเภอเมืองพัทลุง พัทลุง
- วันเวลาที่เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น.
ใครที่มา พัทลุง แล้วอยากไหว้พระทำบุญ พร้อมกับเที่ยวถ้ำไปด้วยในตัว สามารถปักหมุดแล้วมาที่ วัดคูหาสวรรค์ กันได้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน 100% สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ